วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

ทำนายบุคลิกจากเวลา

ผู้ที่เกิดเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า

ช่วงเวลานี้เป็นเวลากระต่าย จะทำให้คุณเป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาดสะอ้าน ชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอ บุคลิกของคุณจะค่อนข้างสุภาพดูอ่อนโยน พูดจาหวานและนอบน้อมถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ ดูแล้วผู้ดี๊ผู้ดี สงบเงียบเรียบร้อยเป็นผู้ใหญ่ ด้านนิสัยใจคอแม้จะดูเงียบนุ่มปานนั้น ลึก ๆ มั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้มแข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบ เป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายไว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือ รสนิยมดี

ผู้ที่เกิดเวลา 7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้า

คนที่เกิดสาย ๆ เวลานี้ซึ่งเป็นเวลางู โดยมากจะหน้าตาดี แต่งตัวดีเสมอ ด้วยของหรูหราราคาแพงหรือมียี่ห้อ ภาพพจน์ของคุณต้องมาก่อนเสมอบุคลิกของคุณดูเงียบขรึม เรียบร้อยสุภาพนุ่มนวล มายาทดี พูดจาหวานหูชื่นใจ นิสัยข้างในค่อนข้างฉลาด เก็บความรู้สึกและความต้องการได้นิ่งลึกมาก คุณรักการแข่งขันชิงดีชิงเด่น มีความทะเยอทะยานสูง ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง เป็นนักวางแผนผู้ชาญฉลาดใจแข็งไม่หวั่นไหวอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ ถ้าจะล้วงความลับจากตัวคุณคงไม่ง่ายนักหรอก


ผู้ที่เกิดเวลาบ่ายโมงถึงบ่าย 3 โมง

คุณที่เกิดเวลานี้เป็นเวลาแพะ จะเป็นคนใจดีอ่อนโยนจนถึงขั้นขลาดเขิน บุคลิกท่าทางของคุณจะสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวลมีมารยาท ดูสุขุมใจเย็น ไม่มีพิษไม่มีภัย ขี้อายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างฝัน มีไอเดียมัน ๆ กับเรื่องตลกจี้เส้น ที่ทำให้หัวเราน้ำหูน้ำตาไหล บางเวลาดูเศร้าซึมเพราะชอบคิดมากเกินเหตุ จิตใจดีทำร้ายใครไม่เป็น ถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตา มีความมั่นใจซ่อนไว้ใต้ท่าทางอ่อนโลกติ่ม ๆ คุณเป็นคนซื่อตรงรักสงบ เกลียดความรุนแรง อะไร ๆ ก็ดีหมด ยกเว้นเรื่องดื้อรั้นของคุณ ครองแชมป์ตลอดกาลเลย


ผู้ที่เกิดเวลาบ่าย 3 โมงถึง 5 โมงเย็น

คุณที่เกิดเวลาบ่าย ๆซึ่งเป็นเวลาของลิง จะมีอิทธิพลทำให้คุณค่อนข้างแอ็กทีฟไม่อยู่เฉย บุคลิกของคุณดูเปิดเผย ใจร้อนและซุ่มซ่ามนิสัยของคุณเหมือนเด็ก ๆ ชอบเล่นพิสดาร คุณเป็นคนฉลาดหัวไว มีไหวพริบกล้าพูดกล้าทำ ตรงไปตรงมา เป็นนักวางแผนและรู้จักเอาตัวรอด มีเล่ห์กลแต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคนได้ทุกระดับ ทุ่มเทกับการงานมาก งานดีเชื่อมือได้ เสน่ห์ในตัวอยู่ที่ความขี้เล่นมีชีวิตชีวาเฮฮา แม้ท่าทางจะดูคล้ายกะล่อนเล็ก ๆ แต่ก็หนักแน่นจริงใจมากนะ


หัวค่ำ

เป็นเวลาไก่ ส่งผลให้คุณเป็นคนเข้มแข็ง หยิ่งยโส หัวรุนแรง ขวางโลก และหัวโบราณ คุณเป็นคนที่ชอบ แต่งตัวใช้แต่ของดีมีราคา บุคลิกขี้อวดไม่ใช่เล่น ว่าฉันเนี่ยรสนิยมดีนะ ในส่วนลึกของจิตใจคุณเป็นนักอนุรักษ์นิยม เจ้าระเบียบ จู้จี้ ขี้บ่นเก่ง หงุดหงิดง่ายดาย ไม่ยอมเสียเงินแบบไร้ค่า ยกเว้นเรื่องภาพพจน์ล่ะก็โอ.เค. คุณมีหัวในการบริหารควบคุม มีความเด็ดขาดละเอียดถี่ถ้วน ต่อสู้กับอุปสรรคไม่มีถอย ยามอารมณ์ดีจะเป็นคนสนุก ชอบล้อเล่น ใจกว้าง มีน้ำใจนักกีฬา ไม่ชอบการใช้อำนาจ เกลียดคนอวดเบ่งที่สุด


คุณทีเกิดช่วงเวลานี้เป็นเวลาของหมา ทำให้คุณเป็นคนรักคุณธรรม ความถูกต้องซื้อสัตย์จริงใจมาก จนถึงขั้นยึดมั่น ถือมั่นทีเดียว ยืดหยุ่นไม่ค่อยเป็น คิดและทำอะไรก็ตามตรง ทื่อไปหมด ไม่กล้าแหกกฎระบบระเบียบจนเกินไป ชีวิตถึงไม่ค่อย มีอะไรแปลกใหม่ บางครั้งจึงดูน่าเบื่อและแสนเซ็ง มีความขยัน ฉลาด แต่พลิกแพลงไม่เป็น เอาตัวไม่ค่อยรอด คุณเกิดมาเป็นนักปกป้องคุ้มครองคนอื่นมองโลกแบบตรงไปตรงมา ไม่เพ้อฝัน ขาดอารมณ์โรมานซ์ แต่ก็เป็นคนตลกจี้เส้นเพราะมองโลกในแง่ดี เรื่องเสียสละเพื่อคนอื่น คุณเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิงในเรื่องนี้เลยล่ะ ซื่อไปนิดเซ็งไปหน่อยแต่จริงใจไม่มีใครเทียบได้เลย

ผู้ที่เกิดเวลา 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม
คุณที่เกิดเวลาหมู อันเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ทำให้คุณขี้เกียจนิด ๆ เฉื่อยหน่อย ๆ คุณรักความเรียบง่ายไม่มากเรื่อง สุภาพอ่อนโยน ใจดี และอบอุ่น บุคลิกออกจะนุ่ม ๆ คุณมีจิตใจดี จริงใจ มีอารมณ์สุนทรีย์ รักดนตรี ศิลปะสวยงาม มีความโรมานซ์ในหัวใจ แม้จะพูดน้อย แต่เอาอกเอาใจเป็นเลิศ คุณชอบแต่งตัวแบบผู้ดี๊ผู้ดี รสนิยมดี ชอบทำอาหารและชอบกินด้วย รูปร่างจึงออกจะแข็งแรงและสมบูรณ์ คุณเป็นคนใจกว้างและชอบให้อภัย หากถูกทำร้ายจะกลายเป็นหมูป่า สู้ถวายชีวิต ความคิด และการกระทำจะเป็นแบบค่อยๆเป็นค่อย ๆ ไป รอบคอบใจเย็นจนกว่าจะมั่นใจนั่นแหล่ะถึงจะลุย ไม่ว่าคุณจะหญิงหรือชาย คุณจะเป็นแม่บ้านพ่อเรือน และรักครอบครัวมาก



เป็นเวลาของหนู คุณที่เกิดเวลานี้จะมีบุคลิกกระตือรือร้น ร่าเริงปราดเปรียวสดใส แต่มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไวไหวพริบดี ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม บุคลิกท่าทางดูขรึม พูดน้อย เฉยชาแต่มีมารยาท รักเพื่อน มีความสุขในหมู่เพื่อน ๆชอบช่วยเหลือและมีน้ำใจ จุดเด่นคือความขยัน และสะสมเก่งคุณมักมีเงินสำรองช่อนไว้ไม่มีใครรู้หรอก ชอบวางแผนการเงิน ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย เป็นคนมีระเบียบ บากบั่นมุ่งมั่นสูง ปรับตัวเก่ง มีความรักแบบผู้ให้ รักบ้านรักครอบครัว แต่ก็รักอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัด กว่าจะลงเอยกับใครสักคน คิดนาน คิดลึก จนผมหงอกเลยเชียวล่ะ

ผู้ที่เกิดเวลาตี 1 ถึงตี 3

เวลานี้เป็นเวลาของวัว ทำให้คุณทำอะไรช้ากว่าชาวบ้าน บุคลิกท่าทางแข็งแรงบึกบึน และอึดเป็นบ้าเลย เป็นคนเฉื่อยแบบใจเย็น ๆ โกรธยากแต่โกรธทีเหมือนระเบิดลง ข้อดีอยู่ที่มีความบากบั่นมีระเบียบ ขยันอดทนหนักแน่น อยู่ในจำพวกสมบูรณ์แบบนิยม ทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เพทุบายกับใครเค้าหรอก คุณน่ะทื่อตรง จนไม่ค่อยทันใคร ขาดอารมณ์ขัน ตลกก็ตลกแบบฝืดๆ โดยปกติเป็นคนอดทนมาก ไม่ชอบความรุนแรง การทะเลาะวิวาท เลี่ยงได้จะเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้คุณจะเปลี่ยนร่างเป็นวัวกระทิงขวิดสุดฤทธิ์ทีเดียว


คุณที่เกิดเวลานี้จะเป็นคนดวงแข็ง เพราะนี่เป็นเวลาเสือ ส่งผลให้คุณหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าวเข้มแข็งและดูมีอำนาจ คุณมีจิตใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว มั่นใจในตัวเองสูง แต่ขาดความรอบคอบ เพราะอารมณ์อยู่เหนือหัวใจ แต่ก็เป็นคนใจดี ชอบเสียสละ ใจกว้างไม่จุกจิกกับเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ มีความรับผิดชอบ ชอบฉายเดี่ยวไม่อยู่ติดที่ คุณมักจะมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด หลงใหลเรื่องรักใคร่โรแมนติก ชอบเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปชั่ววูบ มีความเซ็กซี่เป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่น่าดึงดูดใจ ข้อเสียมีแค่ไม่รู้จักยอมออมชอมบ้างขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ จะหาสีเทาจากคุณน่ะยากเหลือเกิน


ผู้ที่เกิดเวลา 5 ทุ่มถึงตี 1ผู้ที่เกิดเวลา 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม

ผู้ที่เกิดเวลา 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่มผู้ที่เกิดเวลา 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมงเวลาเกิดช่วงนี้เป็นเวลาม้า ทำให้คุณมีบุคลิกของนักกีฬา แข็งแรงอดทน ร่าเริงคึกคัก ชอบสนุกสนาน เรื่องตลกโปกฮาล่ะชอบนัก ความที่รักอิสระเสรีกับการเป็นนักผจญภัย ถือเป็นจุดเด่นในตัวคุณ มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบแหกกฎ นิสัยของคุณเป็นคนใจกว้าง กระตือรือร้นมากแต่รอบคอบไม่เป็น ใจร้อน ชอบทำก่อนคิด กล้าลุยไปข้างหน้า จิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น มีความจริงใจสูง รักเพื่อนและครอบครัว เวลามีทิฐิจะเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นสุด ๆ เวลาน่ารักจะมีชีวิตชีวาน่าตื่นเต้น เจอมรสุมก็ยังลุกขึ้นสู้ได้ ยิ้มได้ทั้งน้ำตาเลยนะคุณน่ะเวลานี้เป็นเวลามังกร บุคลิกของคุณจะดูหยิ่งทะนงมาก ท่าทางสง่าผ่าเผย ดูหัวสูง ติดหรู ความทะเยอทะยานจะเห็นได้ชัด คุณดูน่าเกรงใจ เข้าถึงยาก มีความเป็นผู้นำสูง นิสัยของคุณจริง ๆ แล้วเป็นคนใจกว้างและเด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย บุ่มบ่าม มุทะลุ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ชอบเรื่องเล่ห์เหลี่ยม ในด้านดีอยู่ที่เป็นหลักพึ่งพิงได้ รับผิดชอบสูงและขี้สงสาร เป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียวนะ อนาคตของคุณค่อนข้างแจ่มแจ๋วด้วยความมุ่งมั่นบากบั่นของคุณนั่นแหล่ะ

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ถอดความเรื่อง นิราศนรินทร์

ถอดความเรื่องนิราศนรินทร์

ผู้แต่ง นายนรินทร์ธิเบศ (อิน)



๑. ศรีสิทธิ์พิศาลภพ   เลอหล้าลบล่มสวรรค์
จรรโลงโลกกว่ากว้าง   แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ
ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า   แจกแสงจ้าเจิดจันทร์
เพียงรพิพรรณผ่องด้าว   ขุนหาญห้าวแหนบาท
สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน   ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า
ราญราบหน้าเภริน   เข็ญข่าวยินยอบตัว
ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว   ทุกไทน้าวมาลย์น้อม
ขอออกอ้อมมาอ่อน   ผ่อนแผ่นดินให้ผาย
ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว   เลี้ยงทแกล้วให้กล้า
พระยศไท้เทิดฟ้า   เฟื่องฟุ้งทศธรรม  ท่านแฮ

โคลงบทที่1


ขอความดีงามจงบังเกิดแก่แผ่นดินอันกว้างใหญ่ และประเสริฐยิ่งกว่าดินแดนในโลก จนอาจข่มสวรรค์แผ่นดินนั้นเปรียบดังเมืองสวรรค์ ณ ยอดเขาพระสุเมรุ และเป็นที่ค้ำจุนโลกอันกว้างใหญ่ แผ่นดินที่กล่าวถึงนี้คือกรุงศรีอยุธยาอันเรืองรุ่งโรจน์จับฟ้า และความสว่างรุ่งเรืองนั้นแจ้มแจ้งยิ่งกว่าแสงเดือน จะเปรียบได้ก็กับแสงตะวัน พระนครศรีอยุธยามีเสนาอำมาตย์คอยพิทักษ์รักษาพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงขจัดความทุกข์ของประชาราษฎร และทำลายข้าศึกให้สิ้นไป จนตลอดโลกก็ราบคาบเรียงดังหน้ากลอง บรรดาศัตรูเสี้ยนหนามเพียงได้ยินชื่อกรุงศรีอยุธยาก็พากันน้อมตัวกราบไหว้อยู่กันไสว เพราะความยำเกรงบรรดาเจ้าเมืองต่างๆก็ส่งดอกไม้เครื่องราชบรรณการมาถวายแด่พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาอันพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยานั้นได้ทรงขยายพระราชอาณาเขตให้กว้างขวางออกไป ทรงจัดให้บ้านเมืองมีความสุขสงบราบคาบ พระองค์ก็ทรงทำนุบำรุงบรรดาทวย


๒. อยุธยายศล่มแล้ว  ลอยสวรรค์ ลงฤา
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร  เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์   ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า  ฝึกฟื้นใจเมือง

โคลงบทที่2


กรุงศรีอยุธยาล่มสลายไปจากการเสียกรุง แต่ก็มีเมืองล่องลอยมาจากสวรรค์อันมีพระที่นั่งสถูปแก้วอันสวยงามด้วยบุญบารมีที่สั่งสมของพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง เปิดทางให้บ้านเมืองไปสู่ความดีงามและยังฟื้นเมืองให้ตื่นจากการหลับใหลหลังจากการเสียกรุง


                                                            ๓.เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น   พันแสง
                                                  รินรสพระธรรมแสดงค่ำเช้า     เจดีย์ระดะแซง
                                              เสียดยอด  ยลยิ่งแสงแก้วเก้า    แก่นหล้าหลากสวรรค์

โคลงบทที่3


ความรุ่งเรืองของศาสนานั้นมีมากไปทั่วยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ ผู้คนได้รับพระธรรมจากการฟังธรรมอยู่เป็นประจำ เจดีย์มากมายได้ถูกสร้างขึ้นสูงตระหง่านฟ้ายอดเจดีย์สวยงามยิ่งกว่าแสงนพเก้า เสมือนเป็นหลักแห่งโลกและเป็นที่มหัศจรรย์แห่งสรวงสวรรค์

๔. โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น  ไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลาน  พระแผ้ว
หอไตรระฆังขาน  ภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้ว  ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์

โคลงบทที่4


โบสถ์ วิหาร ระเบียง ธรรมาสน์และศาลาต่างๆนั้น กว้างใหญ่ขยายไปถึงสวรรค์ หอพระไตรปิฎก เสียงระฆังในหอระฆังยามพลบค่ำ และแสงตะเกียงจากโคมอันมากมายนั้นสามารถทำให้แสงจันทร์สว่างน้อยลง


โคลงบทที่8


เมื่อจำต้องจากนางอันเป็นที่รักไปด้วยความอาลัยเหมือนกับต้องปลิดหัวใจของตนออกไปกับนาง ถ้าหากว่าดวงใจสามารถแบ่งออกได้ก็จะผ่าออกป็นสองซีก ซีกหนึ่งจะเก็บไว้กับตนเอง แต่อีกซีกหนึ่งจะมอบให้นางรักษาไว้


๑๐. โฉมควรจักฝากฟ้า  ฤาดิน ดีฤา
เกรงเทพไท้ธรณินทร์  ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบิน  บนเล่า นะแม่
ลมจะชายชักช้ำ  ชอกเนื้อเรียมสงวน

โคลงบทที่10


จะฝากนางไว้กับฟากฟ้าหรือผืนดินดี เพราะกลัวว่าพระเจ้าแผ่นดินจะมาลอบเชยชมนาง จะฝากนางไว้กับสายลมช่วยพัดพานางบินหนีไปบนฟ้า แต่ก็กลัวลมพัดทำให้ผิวนางมีรอยช้ำ


โคลงบทที่11


จะฝากนางไว้กับใครดี จะฝากนางไว้กับนางอุมาหรือชายาพระนารายณ์ ก็เกรงว่าจะเข้าใกล้ชิดนาง พี่คิดจนสามโลกจะล่วงลับไปก็คิดว่าจะฝากนางไว้ในใจตนเองดีกว่าฝากไว้กับคนอื่น


โคลงบทที่22


เดินทางมาโดยทางน้ำล่วงหน้ามาจนถึงตำบลบางยี่เรือ ขอให้เรือแผงช่วยพานางมาด้วย แต่บางยี่เรือไม่รับคำขอน้ำตาพี่จึงไหลนอง


โคลงบทที่37


เดินทางต่อไปจนถึงตำบลบางพ่อ ซึ่งน้ำแห้งเหือดจนมองไม่เห็น มีแต่บ่อน้ำตาที่คงเต็มไปด้วยเลือด พี่ก็อยากให้นางผู้มีความงาม๕ประการมาซับน้ำตาพี่แล้วค่อยจากไป


โคลงบทที่41


เห็นต้นแตกจากกิ่งก้านสลับกับต้นระกำ ทำให้ชอกช้ำระกำใจว่าเคยเป็นเวรกรรมที่คงเคยทำกันมาทำให้เราต้องจากกันไกล ขอให้ครั้งหน้าเราคงได้อยู่ร่วมกัน


                                                              ๔๕. ชมแขคิดใช่หน้า  นวลนาง

                                                           เดือนดำหนิวงกลาง  ต่ายแต้ม

                                                    พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง  จักเปรียบ ใดเลย

                                                             ขำกว่าแขไขแย้ม   ยิ่งยิ้มอัปสร

โคลงบทที่45


เป็นการเปรียบเทีนบของหน้านางกับดวงจันทร์ แต่ดวงจันทร์มีรอยตำหนิเป็นรอยกระต่าย แต่ใบหน้าของน้องนางสวยงามไม่มีตำหนิไม่มีสิ่งใดมาเปรียบเทียบ เพราะใบหน้าของน้องงามกว่าดวงจันทร์ ยิ่งมองยิ่งงามกว่านางฟ้า


๑๑๘. ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ  สงสาร อรเอย
จรศึกโศกมานาน  เนิ่นช้า
เดินดงท่งทางละหาน  หิมเวศ
สารสั่งทุกหย่อมหญ้า  ย่านน้ำลานาง

โคลงบทที่118


เดินทางมาถึงตะนาวศรีความโศกเศร้าก็กระหน่ำซ้ำเติมเข้ามา ความโศกเศร้าที่จากนางไม่ว่าจะเดินผ่านทุ่งนา ป่า ท้องน้ำ หรือสถานที่ใด ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำ ก็สามารถสั่งความไปถึงน้ำได้ตลอด


๑๒๒. พันเนตรภูวนาถตั้ง  ตาระวัง ใดฮา
พักตร์สี่แปดโสตฟัง อื่นอื้อ
กฤษณนิทรเลอหลัง นาคหลับ ฤาพ่อ
สองพิโยคร่ำรื้อ เทพท้าวทำเมิน

โคลงบทที่122


ไม่ว่าจะเป็นพระอินทร์ ผู้มีพันตา ผู้เฝ้าดูระวังโลก พระพรหมผู้มีสี่หน้าแปดหูที่คอยฟังสรรพเสียงใดๆ หรือจะเป็นพระนารายณ์ที่บรรทมอยู่หลังนาค เมื่อเราทั้งสองต้องพลัดพลากจากกัน เราสองคร่ำครวญอยู่ซ้ำซากแต่เทพพระองค์ก็ไม่สนใจ


โคลงบทที่134


แม่น้ำทั้ง 4 สายก็เหือดแห้ง เหล่าปลาใหญ่ มังกร พญานาคต่างพากันหาที่ซ้อนตัว แม้แต่หยาดฝน หยุดฝนก็ไม่มีสักหยด แดดก็ร้อนแต่ถึงแม้กายจะร้อนแต่ก็ไม่ร้อนเท่าใจของพี่


โคลงบทที่138


ลมที่พัดมาต้องอก(กาย)นั้นดังหนึ่งพิษ ความหนาวกลุ้มอยู่ในนอกรู้สึกช้ำใจ

อ้า...น้องผู้ประหนึ่งพวงดอกไม้อันงามของข้า น้องพัดให้ครั้งเดียวก็รู้สึกเย็นยิ่งกว่าลมพัด


โคลงบทที่139


ในอกของพี่นั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะระบายออกมาบรรยายให้น้องได้ทราบความรู้สึกของพี่นั้นมากมาย ดังนั้นพี่จึงเอาเขาสุเมรุมาเป็นปากกา เอามหาสมุทรเป็นน้ำหมึก แล้วเขียนเป็นตัวหนังสือในอากาศเป็นแผ่นกระดาษ จารึกลงไปก็ยังไม่พอ เพราะความรู้สีกของพี่นั้นมีมาก ผู้เลอโลมลงมาจากฟ้า จะรับรู้สึกในใจของพี่หรือไม่


๑๔๐. ตราบขุนคิริข้น
ขาดสลาย แลแม่
รักบ่หายตราบหาย
หกฟ้า
สุริยจันทรขจาย
จากโลก ไปฤา
ไฟแล่นล้างสี่หล้า
ห่อนล้างอาลัย

โคลงบทที่140


ภูเขาพังทลาย สวรรค์๖ชั้น ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ จะหายไปในโลก ความรักของพี่นั้นก็ไม่หายไป ถึงไฟมาผลาญ ล้างทวีปทั้ง4 ก็สามารถล้างความอาลัยของพี่ได้


โคลงบทที่141


พี่ได้คร้ำครวญถึงความรักของพี่จนสั่นกึกก้องทั้งแผ่นดินและท้องฟ้า เป็นข้อความที่บรรยายถึงความโศกเศร้าของพี่ ข้อความเหล่านั้นขอให้น้องรับไว้เป็นต่างหน้าให้นึกถึงอดีตระหว่างเรา ผู้แต่ง นายนรินทร์ธิเบศ(อิน)